วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

เที่ยวออบหลวง ท่องสวนสน หน้าฝน

 สารภาพกันตามตรง นั่งรถจาก จ.เชียงใหม่ ผ่าน อ.​ฮอด จนไปนอนที่ แม่สะเรียง เรื่อยๆจนถึง จ. แม่ฮ่องสอน หลายต่อหลายเที่ยว แต่ก็ยังไม่เคยแวะที่ ออบหลวง สักครั้ง แต่ทุกครั้งที่ผ่านก็นึกเพียงว่า ถ้ามาล่องแก่งเรือยางผ่านช่องเขาที่ตรงนี้ คงจะท้าทายไม่แพ้แก่งระดับ 5 ที่ไหนๆ ที่เขาว่าโหดๆ อย่างไม่ต้องสงสัย



อุทยานแห่งชาติออบหลวง อยู่ในพื้นที่ของ รอยต่อระหว่าง อ.ฮอด อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ การเดินทางสะดวกมาก เพราะอยู่ติดริมทางหลวงหมายเลข 108 จาก จ.เชียงใหม่ไป อ.แม่สะเรียง ซึ่งถ้าจะแวะก็ได้ แต่ทำไมไม่แวะ นั่นเพราะการเดินทางไปให้ถึงปลายทางนั้นก็กินเวลามากพออยู่แล้ว ถ้าขืนแวะคงถึงที่หมายดึกดื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แปลว่าต้องต้องตั้งใจมาไม่ใช่เพียงแค่แวะมาเล่นๆ 

และในวันนี้ก็ได้แวะสักที หลังจากชะเง้อมองมานานเหลือเกิน ในฤดูฝนวันแดดแรง เหมาะมากที่จะหลบร่มสักพักแล้วค่อยออกไปหาความหมายของออบหลวงซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกล ยังพอมีเวลานิดหน่อยให้กินอาหารกลางลำน้ำสีขุ่นราวกับชาเย็น ไหลแรงยกตัวข้ามแก่งเกิดเสียงดังก้องไปทั้งช่องเขาปลายทางข้างหน้า แต่ตอนนี้ไม่สามารถข้ามสิ่งกีดขวางที่อยู่ในกล่องข้าวสานด้วยไม่ไผ่ ที่บรรจุอาหารเมืองสำหรับ 1 มื้อไว้


 จุกเลยมื้อนี่
 มองลงไปขาสั่นนิดๆ

 ร่มเงาของต้นไม้ทอดยอดไปถึง ที่มาของ “ออบหลวง” ช่องเขาขนาดไม่กว้างนัก บีบลำน้ำกว้างกว่าสิบเมตรเหลือช่วงแคบสุดที่เพียง 2 เมตร ถ้านึกบรรยากาศไม่ออกก็ราวกับการเขย่าขวดน้ำอัดลมแล้วเปิดฝา ความแรงของสายน้ำที่ไหลแรงอยู่แล้วกลายเป็นพลังอันมหาศาล ตอนนี้นี่อยากลืมตื่นในชั่วโมงเรียนฟิสิกส์ จะได้คำนวณความแรงออกมาเป็นตัวเลขให้เห็นกันชัดเลยๆ หรือเทียบกับเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ว่ามีพลังมากพอที่จะผลิตไฟให้ห้างใน กทม. ได้เท่ากับกี่ห้าง แต่อย่าเข้าใจไปว่าอยากให้เอาโรงไฟฟ้ามาอยู่ตรงนี้หนา
ฝั่งขวานี่คล้ายหน้าคนนิ




ในช่วงที่ฝนตกชุกเช่นนี้ น้ำขุ่นแดง เชียวเกินกว่าจะลงเล่นน้ำ กิจกรรมต่างๆ ก็งดไปด้วยทั้งล่องแก่ง กางเต็นท์พักแรม แต่สามารถเที่ยวชมได้ หน้าฝนก็จะเขียวๆ ชอุ่มๆ ดอกไม้พอหาเสพได้ตามผนังหิน มอสเฟิร์นดูสดชื่นชุ่มฉ่ำเพลินตาดี ในที่เดียวกันนี้ ยังมีภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นลายเส้นสีขาวยังดูชัดไม่เลือนลาง ต่างจากที่อื่นๆ ซึ่งมักเป็นสีต่างๆ ลวดลายดูจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับผาแต้ม ต่างกันที่สีนี่ล่ะ



มีเวลาอยู่ที่นี่ราว 2 ชั่วโมง ผลิตเหงื่อออกมาได้อย่างคุ้มค่าข้าวนึ่ง แคปหมู ไส้อั่วน้ำพริกหนุ่ม ไหนๆ ก็แวะตรงนี้แล้ว ก็ไปกลับรถที่สวนสนบ่อแก้วกัน แม้จะแวะมาหลายครั้งก็ยังน่าสนใจในทุกๆ ช่วงเวลา พิเศษตรงที่ช่วงนี้มี กระเจียวเด็กสีขาวน่ารักน่าชังให้ก้นโค้งถ่ายรูปกันตามกำลัง ฝนโปรยลงมาแล้วสาวเท้าอย่างไวขึ้นรถ มุ่งหน้าไปปลายทางที่ แม่แจ่ม ก่อนละกัน
 ดอกไม้ในแสงขาวระหว่างเงาดำ

 ดอกไม้ริมทาง
มอสเฟิร์นยึดที่นั่ง



ป่าสนบ่อแก้ว ใครผ่านก็ต้องเลี้ยวรถลงไปถ่ายรูปกันสักนิดนึง
 




นายแบบจำยอม
สนเรียงราย
 ร่องรอยเปลือกสน  




หนูน้อยหมวกแดง

กระเจียวน้อย สีขาว 

 ปล่อยอารมณ์
 สองเรา
จะไปแล้วหรา  ขอหนมกินหน่อย จิ

#Opel Chandhrapanya

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น