![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjV118q0JneI8GApePWsxxybpxY-3ajsw_MyWQmW13RlxPwMl3C2wDP-s-DTFx5QQharv77J-xrlnuBAqFrFMfh6hHabN9HGyJd90A1HBkynPEkJIZsVuqQtbN8UlwT7PuPAX06qbjT8Q8/s200/M%E0%B8%B2%E0%B9%82N%E0%B8%9E%E0%B8%B4L%E0%B8%A1%E0%B8%8D%E0%B9%8C+7.jpg)
นั่งรถตามถนนลัดเลาะเลียบริมแม่น้ำโขงพรมแดนที่แบ่งกันสัญชาติระหว่าง ลาวและไทย บนถนนเส้นนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่มากมายเกี่ยวข้องทั้งทางประวัติศาสตร์การเมือง สถาปัตยกรรมรูปแบบต่างๆ ที่ผสมผสานความงามของหลายๆประเทศเอาไว้ด้วยกัน ตอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่พันผูกกับลำน้ำที่ยาวนับพันกิโลเมตร
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEghzqPPX4x23M00_IoDCxqy_mLz9Y1jGLUmB8rDYsPuQI8RD-rXBSIiopOjOoYh0TjeAD6v7QV52KBrLJIFZEwhVV431Eyq1Jw9ib8nHRpLncyCnyp8VzlztEwQcPndpBSag_8TMTNj9yw/s200/M%E0%B8%B2%E0%B9%82N%E0%B8%9E%E0%B8%B4L%E0%B8%A1%E0%B8%8D%E0%B9%8C+6.jpg)
รถหยุดแวะให้ชม วัดมโนภิรมย์ บ้านชะโนด อำเภอว่านใหญ่ จ. มุกดาหาร วัดเก่าแก่ริมแม่น้ำโขง ที่มีอายุกว่า 300 ปี สร้างขึ้นราว ปี 2230 ราวๆ สมัยอยุธยาตอนปลาย โดยท้าวคำสิงห์ เป็นผู้นำในการโยกย้าย จากบ้านท่าสะโน ถิ่นฐานเดิมในฝั่งลาว หลังพื้นที่ทำเลเดิมนั้นเริ่มจะคับแคบไม่เพียงต่อลูกบ้านที่มีเพิ่มจำนวนขึ้น แต่เดิมวัดชื่อ บ้านชะโนด เดียวกับชื่อหมู่บ้านและชื่อลำห้วยที่ไหลลงสู่ลำน้ำโขง ก่อนมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดมโนภิรมย์
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEipUGo-rNETzeb5MR_34dCkSbPD5GA7j1S15tEnOl2aP5cCGsboUDEUbce7_q3oYp8_lt_QRj4lyWoJ13gS6vLZPmZopiQZoGelur8rTDxhLe8rWDu8fkpN9jcn0lXBbm0yy-K6FwIsR0c/s320/M%E0%B8%B2%E0%B9%82N%E0%B8%9E%E0%B8%B4L%E0%B8%A1%E0%B8%8D%E0%B9%8C+9.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj2zifG57tmbn6ckteQqL9bx9oBZGA4FM8Uf7ImubgHBHZ6fVZcJIdU_wOwHmGmgRtYmJPDQqDtTpJsTUGKPeXuo6rHBj5GiELPqHHoLjohz5CSiMfCvi9D3zv0TNVUtlSEsoYkSA6BPTM/s320/M%E0%B8%B2%E0%B9%82N%E0%B8%9E%E0%B8%B4L%E0%B8%A1%E0%B8%8D%E0%B9%8C+4.jpg)
ศิลปกรรมสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่าง ไทย ลาว เขมร อ่อนช้อยดูลงตัวงดงาม ทั้งงานไม้และงานปูนปั้นอันวิจิตร โบสถ์ที่อยู่ตรงหน้าหลังนี้คือสิ่งที่ถูกเกริ่นนำสร้างอารมณ์ เป็นอาคารปูนหลังชั้นเดียว ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ จุญาติโยมได้ไม่มากนัก ตั้งอยู่ท่มกลางศาสนสถานที่สร้างขึ้นภายหลังที่ให้ความรู้สึกไม่เข้ากัน
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEila87MTE5M5VPjE8yuDc7drmJ60E0j-D0Ge2Qah7rFCZ50ATGdu_WyGkiI2ZZjSqIhURWGpOvJPaR7WDzWlI7hgjgCRKULQSCj0VmacVojoq_EjmzHNNYW32kdyiTmyX2zMYCYl412GRA/s320/M%E0%B8%B2%E0%B9%82N%E0%B8%9E%E0%B8%B4L%E0%B8%A1%E0%B8%8D%E0%B9%8C+3.jpg)
โบสถ์หลังนี้ถูกไฟไฟไหม้ไปเมื่อ กว่าร้อยปีที่ผ่านมา ความงามทางศิลปะถูกเผาไปเหลือเพียงเถ้าถ่าน ซึ่งทั้งชาวบ้านและทางวัดเองได้ร่วมมือกันบูรณะขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แม้จะไม่งดงามเท่าเมื่อในครั้งอดีตเพราะงานฝีมือั้นไม่อาจทำเลียนแบบได้เสมอเหมือน
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgVkpWYROZCcRggl-HbGczf3XErtxzTGN1OSNSxX9egGhzHVN-53dxAlyEn9mDYq5lCkn3_W9ZI7RvtZdHBr2eMVgcweGBBsS53knNUyC5pbMjdJUZl0sZv72dzrLT9uOqAv9icyMBjUW0/s320/M%E0%B8%B2%E0%B9%82N%E0%B8%9E%E0%B8%B4L%E0%B8%A1%E0%B8%8D%E0%B9%8C+11.jpg)
ภายในโบส์มี มี"พระประทาย"หรือ "พระองค์หลวง" พระประธานสร้างด้วยอิฐปูนดูเด่นสง่า จากพนังราบเรียบที่ไม่มีลวดลายลายจิตกรรมผาผนัง สมสัดส่วน พระพักษ์ทั้งหมด บ่งบอกถึงสกุลช่างลาว ด้านซ้ายมีพระงา 8 องค์ นาบข้างซ้าย-ขวา องค์พระ มีพระเจ้าองค์ตื้อ และพระองค์แสน ซึ่งชาวบ้านให้ความเคารพนับถืออย่างมาก อีกทั้งพระพุทธรูปไม้กะสลักที่ชาวบ้านนำมาถวายอีกจำนวนหนึ่ง หน้าต่างทุกช่องมี "ลูกมะหวด" แกะจากไม้ ทำหน้าที่เป็นลูกกรงป้องกันมือดีที่จะมาฉกฉวยทรัพย์สิน
แต่เพิ่งมาทราบข่าวจากทางจอแก้วย้อนหลังไปไม่นานนี้ พระงา ซึ่งแกะสลักจากเป็นพระเจ้า 8 องค์ บนงาของพลายเคน ซึ่งเป็นเคยเป็นช้างของเจ้าเมืองเวียงจันทร์ที่พลัดตกแม่น้ำถูกช่วยขึ้นมาได้ และได้ถวายให้แก่วัดนี้ในเวลาต่อมา นั้นถูกหัวขโมยแอบย่องมาตัดแม่กุญแจประตูหน้าโบสถ์ หายไปพร้อมกับพระองค์แสน ที่เคยต้องพรากจากวัดมาแล้ว ถึง 4 ครั้งแต่ก็ได้กลับคืนมาทุกครั้งไป ในครั้งก็ได้แต่หวังว่าจะได้คืนกลับมาในไม่ช้าสมบัติของแผ่นดินที่ถูกขโมยไปยังพอจะมีโอกาสได้กลับคืนมาถ้าทุกคนที่พบเห็นช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสและไม่เห็นแก่ตัว คิดจะเก็บครอบงำไว้เอง งานทางพุทธศิลป์ที่นับวันจะหาดูได้ยากขึ้น
วัดริมน้ำโขง ของจังหวัดมุกดาหาร แห่งนี้ถึงแม้จะไม่ใหญ่ไม่โตมากนัก แต่ก็มีตัวโบสถ์ที่สวงามด้วยรูปแบบโบราณซึ่งจะสร้างขึ้นใหม่ในปัจจุบันคงหาได้น้อยมาก เพราะทั้งแรงงานที่มีฝีมือขนาดนี้คงหาได้ยากเต็มที ช่วยกันดูแลและถนอมรักษาไว้ให้นาน คงไม่เกินความสามารถของคนในยุคนี้กระมัง
ว่างๆก็แวะไปที่ http://www.oknation.net/blog/samjaw ด้วยเน้อคั่บ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น